ดูหนังออนไลน์ฟรี แม้กระนั้นก็จำต้องเห็นด้วยว่า ตัวหนังก็มองเห็นความมานะบากบั่นที่จะตีความหมายแล้วก็เปลี่ยนแปลงปรับอัปเดตแฟรนไชส์ ‘Transformers’ ใหม่ในเนื้อหานิดๆหน่อยๆทั้งยังการปรับวางแบบหุ่นรบใหม่ โดยยิ่งไปกว่านั้นหุ่นพงไพรม์ ที่ปรับให้มีความคล้ายคลึงกับเวอร์ชันการ์ตูน (G1) แล้วก็การปรับค้างแรกเตอร์ของเหล่าบรรดาหุ่น ที่ตอนแรกในจักรวาลพ่อเบย์จะมีระยะห่างมากมายหน่อย
จากออปว่ากล่าวมัส ไพร์ม หุ่นรบอ่อนโยนๆให้มองมีทรงแบบหัวหน้าจอมหัวร้อน และก็เบียวมากมายๆด้วย ด้วยเหตุว่าคำพูดคำจาพี่แต่ละคำนี่มันช่างเบียวลำพองใจจริงๆหรือแม้กระทั้งไม่ราจ ที่ พีท เดวิดสัน ก็รับหน้าที่บรรยายเสียงได้ยียวนมากมายๆซึ่งตัวหนังอุตสาหะจะดันให้ไม่ราจขึ้นมาเป็นเพื่อนกับมนุษย์ และก็วางเส้นเรื่องมิตรภาพของไม่ราจกับโนอาห์ ชนิดเดียวกันกับบัมเบิลบีในภาคที่แล้ว
ไม่ราจก็เลยจำต้องเปลี่ยนมาเป็นตัวจี๊ดตัวตึง เป็น MVP ประจำภาคที่ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยรู้สึกชื่นชอบ จนถึงแทบจะไม่จำเป็นที่ต้องมอง ‘Bumblebee’ มาก่อนก็มองภาคนี้เข้าใจ เพียงพอมาภาคนี้ก็จะมีความสนิทสนมมนุษย์ มีความเป็นคน มีความรู้สึกคิดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆแม้กระนั้นโน่นก็ไม่ใช่จุดที่มาบ่อนทำลายความเพลิดเพลินของตนเองอะไรมากแค่ไหนนัก
แต่ว่าอย่างต่ำๆก็ยังดีที่ได้บทหนังของมือเขียนบทลำดับแรกๆของแวดวงเวลานี้ อย่าง “คริสตำหนิที่นา ฮอดสัน” มาช่วยประคองเอาไว้ ท่ามกลางทางที่ท้าและก็วุ่นพอได้ ก็เป็นไปตามที่ลือๆกันว่าหนังถือรายละเอียดนิดหน่อยมาจากฉบับคอมิก Flashpoint มาเล่นด้วย โน่นก็เลยเป็นต้นเหตุที่ทำให้หนังยังมีกลิ่นความเป็นการ์ตูนปนเปอยู่หน่อย แม้กระนั้นมิติที่ทับซ้อนรวมทั้งสลับซับซ้อนของหนังหัวข้อนี้ก็ทำเป็นเพียงแค่แทบ แต่ว่ายังไม่ถึงระดับเพอร์เฟ็คใดๆก็ตาม
บางครั้งก็อาจจะจำเป็นต้องกล่าวว่าถ้าหากว่าคุณเป็นแฟนคลับผู้แสดงวีรบุรุษหรือดีซี The Flash น่าจะเป็นหนังที่เพลินใจก้าวหน้าสำหรับคุณในระดับหนึ่งเลย แม้กระนั้นแม้ว่าผู้ใดที่มิได้มีพื้นฐานหรือเพิ่งจะมานั่งทำความรู้จักในเวลานี้ ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีบางมุมที่รู้สึกฉงนใจรวมทั้งยังไม่รู้เรื่องกับแนวคิดด้านๆเกี่ยวกับการเดินทางผ่านเวลา แล้วก็ผ่านพหุจักรวาล ที่ยังไม่ค่อยได้รับการชี้แจงที่สะสางสักเท่าไหร่
ดูหนังออนไลน์ฟรี รีวิวภาพยนตร์ The Point Men (2023)
หรือในชื่อไทยว่า ล็อคเป้าตาย ค่าไถ่หยุดโลก เป็นหนังที่ได้รับแรงผลักดันจากสถานะการณ์จริงที่ชาวประเทศเกาหลีใต้ปริมาณหนึ่ง ถูกองค์การก่อการร้ายตาลีบันจับแบบเป็นๆตัวประกันในอัฟกานิสถานเมื่อปี 2007 ส่งผลให้เกิดการผลิตสรรค์หนังลุ้นตื่นเต้นผสมแอ็คชั่น บนเรื่องราวของการจัดการกับคำเรียกร้องอำนาจต่อรองเพื่อแลกเปลี่ยนชีวิตตัวประกัน โดยสร้าง 2 ตัวนำของเรื่องให้ ต่างขั้วทรรศนะและก็สไตล์การทำงาน มาพบกันในภารกิจนี้
หนึ่งเป็นข้าราชการการฑูตใส่สูทผูกไทค์ว่าตามหนังสือเรียนเป็นหลัก อีกหนึ่งเป็นข้าราชการหน่วยข่าวกรองชำนาญดินแดนอาหรับลุคดิบๆจนถึงพวกเขาจำเป็นต้องยอมประสานมือกัน ทุ่มชีวิตเป็นพนันกับกลยุทธ ‘การเจรจาต่อรอง’ ในแบบที่เป็นหนทางท้ายที่สุดภายใต้เส้นตายวิกฤติ ก็เนื่องจากว่าวัตถุประสงค์เดียวของพวกเขาที่ตรงกันหมายถึงตัวประกันทั้งปวงจำเป็นต้องรอดตายได้กลับไปอยู่บ้าน
จะว่าไปหนังประเด็นนี้ก็คงจะสถานะผู้แสดงจำพวกรังเกียจขี้หน้ากันช่วงแรก แม้กระนั้นมารักกันในช่วงท้าย ที่สุดด้านหลังก็ปรับปรุงกระทั่งเปลี่ยนเป็นความรักในช่วงท้ายแบบไม่ต้องคาดการณ์ สิ่งที่น่าดึงดูดเป็นวิวัฒนาการของผู้แสดงแต่ละตัว ที่ยอมละลายความประพฤติปฏิบัติของตนเองเพื่อศัตรู จะว่าไปพวกเราบางครั้งอาจจะได้ดูหนังในแนวทางเดียวกันในแบบที่ดีมากกว่า ก็คือ A Star is born
อีกจุดที่คนเขียนมีความคิดว่าหลายท่านก็คงจะรู้สึกไม่น้อยกับภาคนี้แน่นอนล่ะ ก็คือบรรดาฉากแอ็กชันครับผม ซึ่งเอาเข้าจริงภาคนี้มันก็ยังคงมีความเป็น Bayhem หน่อยๆตามอิทธิพลโปรดิวเซอร์นั่นแหละ ดูหนังออนไลน์ฟรี แม้กระนั้นสิ่งที่ต่างอย่างชัดเจนเป็น ภาคนี้เป็นหนังสเกลกลางที่มิได้เน้นย้ำหวือหวาแบบระเบิดเขาเผากระต๊อบแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉากแอ็กชันตอนไคลแม็กซ์ ที่นับว่าทำเป็นบันเทิงใจแล้วก็ละลานตา เพียงแต่ว่าบางครั้งอาจจะมิได้มีฉากวิจิตรตระการตา
หรือมีมุมกล้องถ่ายรูป-ตัดต่อหวือหวาเท่าของพ่อเบย์ ถ้าเกิดผู้ใดกันแน่ถูกใจความตระการตาแบบทะลุอาคาร ระเบิดรถยนต์ ก็บางทีก็อาจจะมีความรู้สึกว่ามันจืดชืดไปหน่อย แต่ว่าถ้าเกิดคนไหนกันแน่ถูกใจกับเรื่องราวในแบบไม่ต้องย้ำแอ็กชันหวือหวา มีกลิ่นความเป็นหนังซูเปอร์ฮีโรหน่อยๆเพียงนี้ก็จัดว่าละลานตาและก็ตื่นเต้นกว่าฉากแอ็กชันใน ‘Bumblebee’ มากมายๆแล้วล่ะ
รีวิว Bloodhounds
ซีรีส์แนวแอ็กชันอาชญากรรม ที่ผลิตขึ้นมาจากเว็บไซต์ตูน แบ่งดำ ขาว ชัดเป๊ะ แต่ว่าเล่าราวของความดีแล้วก็ความไร้มนุษยธรรมได้อย่างกลมกลืน ลื่นไหล ลุ้น โศกเศร้า เชื้อเชิญติดตามตั้งแต่ต้นกระทั่งหยดท้ายที่สุด บอกเลยว่าหัวข้อนี้มีเลือดสาดเต็มหน้าหน้าจอ กระซวกยับ อัดน่วม ปิดตาปี๋สำหรับผู้หญิงแต่ว่าเอาอกเอาใจสายบู๊แบบสุดลิ่มทำให้พวกเราดูหนังหัวข้อนี้จนถึงจบได้อย่างไม่กระอักกระอ่วนดวงใจ (แม้ว่าจะใช้เวลายาวนานหลายวันสำหรับในการมองก็ตาม)
และก็แน่ๆว่า “เอซรา ไม่ลเลอร์” ก็คือตัวหามหนังประเด็นนี้เอาไว้ได้อย่างเพอร์เฟค ในด้านดารานั้น เขาก็คือหนึ่งในดาราที่เต็มไปด้วยความสามารถอันเหลือเกิน เขาสร้าง แฟลช ออกมาในแบบอย่างที่แฟนคลับจะประทับใจ พร้อมทั้งมอบการแสดงที่ออกจะประทับใจและก็ท้าตนเองอยู่เสมอช่วงเวลากว่า 2 ชั่วโมงเศษๆของหนังหัวข้อนี้ ไม่ว่าอย่างไร แฟลช ก็ยังเหมาะสมที่จะเป็นเขามารับบทนี้อยู่
แต่ว่าก็จะมีจุดดูเรื่องบทอยู่พอเหมาะพอควรเช่นกันครับผม จุดที่นักเขียนคิดว่าหนังภาคนี้ยังทำเป็นไม่รัดกุมมากพอก็คือ การปูเรื่องความเชื่อมโยงอีกทั้ง คน-คน, คน-หุ่นยนต์ และก็หุ่นยนต์-หุ่นยนต์ ที่จะลากเข้าไปสู่เงื่อนดราม่าที่ในหนังปูทางเอาไว้ และก็ช่วยเข้ามาเพิ่มให้หนังมองมีความรู้สึก มีหัวใจมากขึ้น ไม่แข็งทื่อราวกับหนังพ่อเบย์ โดยยิ่งไปกว่านั้นคู่ซี้ โนอาห์-ไม่ราจ ที่เป็นตัวเพิ่มเติมสีสันให้หนังสนุกสนานรวมทั้งสวยขึ้นเป็นกอง
แต่ว่าก็ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ว่า ความยาว 2 ชั่วโมงนิดๆมันก็ทำให้หนังมันสั้นเกินกว่าจะปูเรื่องความเกี่ยวข้องในแบบเชิงลึกของแต่ละนักแสดง แล้วก็ความเกี่ยวเนื่องในแบบต่างๆให้ผู้ชมรู้สึกอินแล้วก็อิ่มเอมได้สะอาดเสมอกันกับ ‘Bumblebee’ ที่มีความน่ารักน่าเอ็นดูและก็ทัชใจมากกว่า แปลงเป็นมวลบรรยากาศความเกี่ยวข้องบอบบางๆที่มิได้เชิญให้เข้าถึงพาร์ผายลมราม่าได้สุดกำลังมากเท่าไรนัก
ส่วนในด้านบท แม้ว่าจะมีวัตถุดิบจากการตีความหมายใหม่ที่นับว่าสดใหม่และไม่ชั่วโคตรเลย รวมทั้งนักเขียนก็เชื่อลึกๆว่ามันก็แกร่งพอที่จะให้ไปต่อได้อีกหลายภาค แม้กระนั้นโดยส่วนประกอบสำคัญๆก็ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้จริงๆว่า พล็อตของตัวหนังก็ยังมิได้มีอะไรที่แปลกใหม่อะไรขนาดนั้นหากแม้ภาคนี้จะแอบมองเห็นบางซีนที่ CGI ไม่ค่อยเสถียร ประเดี๋ยวดีประเดี๋ยวหลุดบ้าง แม้กระนั้นก็จัดว่าเพียงพอยอมรับได้นะ
ถึงแม้การเล่าจะเพียรพยายามวางจุดพลิกล็อกให้ได้ลุ้นตลอดทาง แทรกแนวทางการดำเนินเรื่องแบบหนังสยองขวัญ แทรกมุกขำขันแกล้มบางๆแทรกเพลงฮิปฮอปสมัย 90s ที่ผู้กำกับคัดเลือกมาเองกับมือ ซึ่งนับว่าเป็นของใหม่ๆที่ไม่เคยมีในภาคก่อนๆแม้กระนั้นองค์ประกอบบทรวมทั้งพล็อตโดยรวม ก็ยังคงเล่าด้วยบทที่เป็นสูตรสำเร็จตามแบบฉบับ ‘Transformers’ ขาๆไม่บิดพลิ้ว
ส่วนข้างหญิงในช่วงปัจจุบันเป็น คิมมูนี (สวมบทโดย โจอีฮยอน) นักศึกษาชั้นปีที่หนึ่งคณะสังคมศาสตร์ของมหาวิทยาลัยประเทศเกาหลีรายปีการศึกษาเล่าเรียน 2021 บิดามารดาของคุณไปปฏิบัติงานต่างถิ่น คุณก็เลยไปรื้อถอนของโบราณเก็บได้เครื่องวิทยุของบิดามาทดลองเป็นมือใหม่ฝึกฝนเล่นแก้หงอยเหงา โดยทำความเข้าใจเองจากเอกสารแนะนำชี้แนะ
รีวิวภาพยนตร์ Confession (2022)
เป็นภาพยนตร์แนวปัญหาตื่นเต้นไปกับการสืบสวนใส่ความจริงของคดีอาชญากรรม รีเมคจากหนังดังเรื่อง The Invisible Guest (2016) ของประเทศสเปน เดิมมีแผนสำหรับการจัดแจงฉายตั้งแต่สิ้นปี 2020 แม้กระนั้นจำเป็นต้องเลื่อนเนื่องจากว่าเหตุการณ์วัววิด-19 แต่กระนั้นก็ยังได้ผลการตอบกลับที่ดีเลิศๆเป็นมียอดตั๋วสูงเป็นชั้น 16 ของปี แม้ว่าจะไปไม่ถึงจุดคืนทุน แม้กระนั้นหนังก็ได้รับการตอบกลับดีในทางการรับเชิญไปฉายในหลายๆเทศกาลภาพยนตร์ของจากเมืองนอก
ความดีความชอบขั้นแรกจำต้องขอชูให้กับตัวบทเริ่มแรกซึ่งมีความเด่นรวมทั้งบันเทิงใจน่าประทับใจเป็นทุนสำคัญ พอนำมาปรับใส่กลิ่นและก็เนื้อหาให้กับความเป็นประเทศเกาหลีอย่างเหมาะควร ถ่ายทอดผ่านดาราหนังที่มากความสามารถอย่าง โซจีซอบ และก็ คิมยุยงนจิน ก็ทำให้ยังสามารถเสพย์ซ้ำได้อย่างสนุกสนานเพลินสำหรับคนที่เคยผ่านต้นฉบับมาแล้ว และก็สนุกสนานตลึงอย่างสดใหม่แน่ๆสำหรับคนที่รับดูเป็นครั้งแรก
ในคืนราหูอมจันทร์ เสียงสัญญาณเรียกตอบ ‘CQ..CQ..CQ ได้ยินแล้วตอบด้วย..เปลี่ยนแปลง’ ของ คิมมูนี ก็เลยถูกส่งมาที่เครื่องวิทยุของ คิมยง โดยต่างข้างต่างไม่ได้เลยว่านี่เป็นการติดต่อสื่อสารผ่านมิติเวลา ทั้งสองเริ่มทำความรู้จักกัน รวมทั้งนัดพบกันเพื่อแชร์คู่มือที่หน้าห้องประชุม แน่ๆว่าพวกเขาเป็นไปไม่ได้ได้เจอหน้ากันหรอก (เวอร์ชั่นเลดี้กาก้า แต่ว่าอันนั้นคู่พระนางมิได้ เป็นคู่ปรับกันนะ เพียงโทนเรื่องรวมทั้งองค์ประกอบมีความเหมือนกันพอควร)
และก็ในตอนนั้นเองที่ทำให้ความเป็นจริงแตกออกมาว่าพวกเขาอยู่กันคนละสมัย ถึงจะมองแปลกๆและไม่น่าไว้วางใจ แต่ว่าความคุยถูกคอประสาคนวัยเดียวกันก็ทำให้ความเกี่ยวเนื่องนี้ไปต่อ จากเรื่องสัพเพเหระไปถึงความฝัน คิมมูนียังช่วยแนะแนวทางจีบผู้หญิงแก่คิมยง เปลี่ยนมือใหม่ฝึกหัดจีบผู้ซุ่มซ่ามให้เปลี่ยนเป็นชายหนุ่มมีเสน่ห์ด้วยลักษณะท่าทางและรูปแบบการแต่งตัวรวมทั้งความเชื่อมั่นและมั่นใจ พร้อมฝ่าไปตามหัวใจ
ข้างหลังคิมยงพบว่าความรักที่มีต่อซอฮันซอลนี่ล่ะ เป็นจุดมุ่งหมายความฝันของตนเอง ดูหนังออนไลน์ฟรี แม้ คิมมูนี จะเป็นที่ปรึกษาความรักที่ดีให้กับ คิมยง แต่เอาจริงเธอกลับยังไม่รู้ใจตัวเองดีว่าลึก ๆ แล้วมีความรู้สึกดี ๆ เกินคำว่าเพื่อนสนิท 7 ปีให้กับ โอยองจี (รับบทโดย นาอินอู) หรือไม่? เขามีใจคอยช่วยเหลือและอยู่เคียงข้างเธอเสมอทั้ง ๆ ที่ชีวิตตัวเองก็ยุ่งวุ่นวายกับการทำงานพาร์ทไทม์จนเกือบต้องทิ้งการเรียนแล้ว
รีวิวหนัง “Elemental เมืองสับสนธาตุชุลมุน”
สร้างสีสันความสนุกสนานร่าเริง พร้อมเรื่องราวความซาบซึ้งสู่ห้องหัวใจของแฟนคลับทุกธาตุ ทุกตัวตน กับภาพยนตร์แอนิเมชันออริจินัล “Elemental เมืองวุ่นธาตุชุลมุน” จาก ดิสนีย์และก็พิกซาร์ พาคุณท่องไปในโลกแฟนตาซี อันมีธาตุทั้งยัง 4 มาเป็นคาแรคเตอร์หลัก มี ดิน น้ำ ลม ไฟ พร้อมใส่รายละเอียดไม่เหมือนกันของแต่ละธาตุ ความเกี่ยวพันอันสนิทแน่น ผ่านการเล่าเรื่องแบบมีกลเม็ดเด็ดพรายแล้วก็ความขำขันที่เรียกรอยยิ้มออกมาอย่างบรรเทา
ในขณะที่นักแสดงสมทบอื่นๆอย่าง “ไมเคิล คีตัน” ที่กลับมาเล่นบทเป็น กางทแมน อีกรอบรอบหลายสิบปี เขาก็ยังคงเอกลักษณ์เอาไว้ได้ แม้ว่าหน้าที่รวมทั้งมิติของเขาในหนังหัวข้อนี้บางครั้งอาจจะมิได้สะดุดตาอะไรอย่างที่คาดหวังไว้ เหมือนกันกับ “ชาซ่า แคลล์” ที่มารับบทบาทเป็น ซูเปอร์เกิร์ล ที่เสน่ห์ของคุณร้ายมากจริงๆอีกทั้งดุเดือด อีกทั้งทรงเสน่ห์ เป็นอีกหนึ่งผู้แสดงใหม่ที่คงจะทำให้แฟนคลับเผลอไผลได้ แม้ว่าจะแบบกรุบกริบเท่านั้นก็ตาม
ตัวหนังยังคงเล่าด้วยพล็อตภารกิจการตามหาข้าวของล้ำค่าของไซเบอร์ทรอคอยเนียน เพียงแต่ว่าภาคนี้มีการเพิ่มบทให้มนุษย์เข้าไปมึส่วนร่วมกับภารกิจมากเพิ่มขึ้นอย่างแจ่มแจ้ง ปลอดทหารหรือกองทัพมารอยุ่มย่ามแล้วหลังจากนั้นก็ไม่มานะทำให้ออโตบอตมีความเชี่ยวชาญขั้นเทวดาเสมือนภาคก่อนๆด้วย แต่ว่ามีเส้นเรื่องที่ทำให้ออโตบอตรู้จะแพ้เป็น มีเงื่อนฝังใจ
มีช็อตที่ห่อเหี่ยวแบบขั้นสุด ทำให้ตัวหนังมีกลิ่นหนังแอ็กชันเสี่ยงภัยล่าโภคทรัพย์สูตรสำเร็จแบบ ‘Indiana Jones’ ที่ซัดกันด้วยเส้นเรื่องและก็แอ็กชันแบบตรงๆย้ำๆแล้วก็มีพาร์ผายลมราม่าที่ทายใจไม่ยาก เน้นย้ำมองบันเทิงใจเพลิดเพลินๆไม่มีเส้นเรื่องรองผีบ้าผีบอ ไม่มีอาการตัดต่อมึนหัว มองไม่รู้เรื่องว่าผู้ใดตีกับคนไหนกันเสมือนภาคก่อนๆ เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่จำเป็นต้องกดไลก์รัวๆพร้อมอิ่มเอมดวงใจไปกับครอบครัว เด็กมองได้คนแก่ดูดี
ข้อดีก็คือ Purple Hearts แคสติ้งดารามาตรงกับติดอยู่แรกเตอร์ พวกเขาแสดงบทบาทเป็นตัวละครได้อย่างพอดี หากว่าหลักสำคัญดราม่าเกี่ยวกับเรื่อง “ทหารอเมริกาผู้สละ” จะเป็นพล็อตน้ำเสียที่ตัวเราเองก็เหม็นเบื่อจนกระทั่งเกือบจะอาเจียน (เนื่องจากว่าส่วนตัวไม่เคยอินไปกับผู้ประโคมรรมพลีชีพเพื่อชาติมานานแล้ว) แต่ว่าถึงแบบนั้น ด้วยความเพียงพอเพียงพอเจาะ betflix09 ที่จะไม่ขยี้หัวข้อดังที่กล่าวมาข้างต้นจนถึงหนักมือ