somekind of beautiful Cocaine Bear หมีบ้า รวมทั้งนี่ก็เป็นเลิศในหนังหมีๆที่พวกเราจะได้มองเห็นลงโปรแกรมฉายชนกันทั้งคู่หมีในตอนสุดสัปดาห์นี้ “Cocaine Bear หมีคลุ้มคลั่ง” หนังตื่นเต้นภัยร้ายจากสัตว์ป่าที่ควบคุมอารมณ์มิได้เนื่องจากว่าฤทธิ์สารเสพติด เปลี่ยนมาเป็นหนังหวาดเสียวคละเคล้าขำ ที่จะพาผู้ชมทุกคนออกไปพบที่หลบจากหมีเมาตัวร้ายตัวนี้ให้ดีๆเพราะเหตุว่ามันพร้อมที่จะขย่ำทุกคนที่กีดกั้นมันไปพบ…แป้ง Cocaine Bear สร้างขึ้นจากความจริง เมื่อนักลักลอบขนสารเสพติดที่บรรทุกโคเคนไปเต็มเรือบิน แม้กระนั้นปรากฏว่าเผชิญเหตุตกลงกึ่งกลางเขาในพื้นป่า หายนะกำลังจะเริ่มขึ้น เมื่อเจ้าหมีดำป่ายักษ์ น้ำหนักกว่า 500 ปอนด์ ได้บังเอิญไปศึกษาและทำการค้นพบโคเคนปริมาณเป็นอันมากและก็มันเริ่มเสพติดมันอย่างไม่ทราบประสีประสา ก่อนมันจะสร้างสถานการณ์บ้าทั้งยังป่า!
พวกเราได้มองเห็นคุณควบคุมหนังเพลงสุดปัง พวกเราเคยมองคุณควบคุมหนังแอคชั่นพลังหญิงฉบับรีเมคในตำนาน รวมทั้งในตอนนี้พวกเราก็มาพิสูจน์ฝีมือของคุณในฐานะผู้กำกับหนังตื่นเต้นกันดูบ้าง เนื่องจากว่าคุณเป็นดาราสาวมากมายความสามารถ “เอลิซาเบธ ธนาคารส” ที่มานั่งเก้าอี้ดูแลงานสร้างภาพยนตร์อีกทั้งหัวข้อนี้เอง กับการถือเอาตำนานสุดแปลกในห้วงชีวิตของสัตว์ป่ามาเผยขึ้นบนหน้าจอ จำต้องสารภาพว่าความสามารถของ อลิซาเบธ ธนาคารส นับว่ายังคงใช้เจริญ คุณรู้จักจังหวะแล้วก็สิ่งที่ผู้ชมต้องการจะมองเห็น รวมทั้งการถ่ายทอดผ่านมุมมองของคุณก็นับว่าน่าพึงพอใจ ใส่ฉากสยองขวัญเข้ามาเป็นความสนุกสนานได้พอควร หยอดมุกเพียงพอขำรวมทั้งเป็นสีสันได้ดิบได้ดีตลอดทั้งเรื่อง เพียงแต่ว่าภาพรวมของหนัง Cocaine Bear กลายเป็นได้แค่เพียงหนังระทึกเกรดรองๆแค่นั้น
somekind of beautiful พากย์ไทย ซับไทย บรรยายไทย
บทหนังของ “จิมมี่ วาร์เดน” (จาก The Babysitter อีกทั้ง 2 ภาค) ยังคงสไตล์รวมทั้งลูกเล่นแนวถนัดของเขา แต่ว่าไดอะล็อกแล้วก็ท่าทางที่เอามาจัดวางเอาไว้เป็นสตอปรี่ในหนังหัวข้อนี้ค่อนข้างจะอ่อนแอ หนังหาสิ่งอื่นใดมิได้เลยนอกเหนือจากสร้างเอามันเพียงเท่านั้น ไม่ต้องสอบถามหาเหตุรวมทั้งผลใดๆก็ตามไม่ต้องมองหาความไหลลื่นสำหรับเพื่อการเล่าทั้งหมด เนื่องจากหนังประเด็นนี้เกือบจะไม่มีให้สักเท่าไหร่ เอาตรงๆสิ่งที่ทุกคนมองเห็นอยู่ในคลิปแบบอย่างหนังประเด็นนี้ ก็บางครั้งก็อาจจะเป็นสิ่งที่มองเห็นแทบทั้งหมดของประเด็นนี้แล้ว ส่วนประกอบเดียวที่ทำออกมาได้เยี่ยมสุดๆก็จำเป็นต้องชูความดีความชอบให้กับ น้องหมีโคเคน ที่มีการออกแบบออกมาได้ออกจะละเอียดใช้ได้ แม้ว่าจะมีบางจุดที่วิธียังไม่แนบเนียนที่สุด แม้กระนั้นก็ยังไม่ใช่จุดที่บ่อนทำลายอารมณ์ผู้ชมอะไร
ถึงแม้ว่า น้องหมีโคเคน จะต้องเป็นตัวเอกของหัวข้อนี้ แต่โชคร้ายที่ในพาร์ทการแสดงของผู้คนในหนังประเด็นนี้เป็นส่วนที่ทำทุกๆสิ่งทุกๆอย่างพังทลายลงไป เพราะว่าด้วยการมัดเรื่องราวที่ว่าง่ายถางแล้ว การลำดับเล่ายังเกือบจะไร้ซึ่งเสน่ห์รวมทั้งแรงดึงดูดอะไรก็ตามด้วย มีผลทำให้การส่งบทถัดไปถึงการแสดงของผู้แสดงทุกคนในหนังประเด็นนี้ เข้าขั้นเกือบห่วยแตกอย่างยิ่งจริงๆ The Point Men ล็อคเป้าตาย ค่าไถ่หยุดโลก และก็นี่เป็นหนังระดับบ็อกซ์บัสเตอร์ฟอร์มใหญ่จากประเทศเกาหลีที่ส่งมาสนุกระห่ำเกิดเรื่องแรกของปี 2023 นี้ เพราะเหตุว่าเป็นการแข่งขันหน้าที่กันของ 2 ซุปตาร์ชายหนุ่มระดับแถวหน้าของแวดวงใน “The Point Men ล็อคเป้าตาย ค่าไถ่หยุดโลก” ด้ามจับเอา “ฮวังจองไม่น” กับ “ฮยอนบิน” มาร่วมภารกิจสุดระทึกใจที่เสนอเอาไว้มาเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในหน้าหนังสือพิมพ์มาขึ้นหน้าจอ
The Point Men ล็อคเป้าตาย ค่าไถ่หยุดโลก อิงมาจากเรื่องที่เคยเกิดขึ้นจริง somekind of beautiful เมื่อกรุ๊ปตาลีบันหัวรุ่นแรงจับนักเดินทางชาวประเทศเกาหลีเป็นตัวรับรองในอัฟกานิสถาน รัฐบาลประเทศเกาหลีใต้ส่งแจโฮ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นนักการทูตเก่งที่สุดของประเทศไปจัดการเหตุการณ์ เมื่อเขาไปถึงเขาขอความร่วมมือจากรัฐบาลอัฟกัน แล้วก็ใช้ทุกแนวทางเพื่อตัวประกันมีอิสรภาพ แม้กระนั้น มันกลับไม่เป็นผล เมื่อแผนที่วางไว้พังทลายหมดรูป ทำให้เหตุการณ์บีบให้เขาจะต้องร่วมงานกับ แดสิกข์ ข้าราชการพิเศษภาคสนามที่ชำนาญพื้นที่ตะวันออกกลาง เมื่อทั้งสองใกล้ถึงตัวตาลิบัน ตัวประกันคนแรกก็แปลงเป็นศพ เมื่อเป็นไปไม่ได้ให้ถอย ทั้งสองจะต้องร่วมมือกันแข่งกับเวลาเพื่อตัวประกันที่เหลือรอดชีวิตกลับไปอยู่ที่บ้าน
ผลิตขึ้นจากเรื่องราวจริงของเหตุวิกฤตตัวประกันประเทศเกาหลีถูกควบคุมตัวในอัฟกานิสถานเมื่อปี 2007เป็นอีกทีที่หนังประเทศเกาหลีได้จับเอาเหตุประวัติศาสตร์มาขึ้นจอด้วยงานสร้างที่ทรงอำนาจ ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้เลยว่า The Point Men มากับงานโปรดักชั่นระดับเปรียบเทียบกับสากล มีกลิ่นลักษณะเดียวกันกับหนังฮอลลิวูดอย่างยิ่งจริงๆ ทำให้น่าเชื่อถือแล้วว่าวงการหนังประเทศเกาหลีก้าวไปไกลมากจริงๆทุกสิ่งทุกอย่างถูกเซ็ตขึ้นมาได้อย่างเหมือนจริง โดยยิ่งไปกว่านั้นโปรดักชั่นวางแบบจุดต่างๆที่จะต้องยกนิ้วให้
งานสร้างของผู้กำกับหญิง “ยิมซุนรเย” จาก The Whistleblower และก็ Little Forest นับว่ากลับมาทำหนังแนวดุเดือดอีกรอบ และก็เป็นการที่สเกลใหญ่ไม่ธรรมดาด้วยเหมือนกัน ทำให้คุณจะต้องแงะเอาประสบการณ์ในด้านที่เกี่ยวข้องกับการทำงานกว่า 20 ปีออกมาใช้ ที่นับว่าทำออกมาก้าวหน้าตามมาตรฐาน บางทีอาจจะยังมิได้มีอะไรสะดุดตาและก็เปล่งรัศมีถีงที่สุด เนื่องจากยังมีบางส่วนประกอบที่บ่อนทำลายตัวหนังไปจุดที่มาบ่อนทำลายอารมณ์ของหนัง The Point Men ประเด็นนี้ น่าจะเป็นบทหนังแล้วก็จังหวะการเล่าเรื่อง
ที่เป็นความดุเดือดแต่ว่ายังไม่แจ่มจรัสได้อย่างเต็มเปี่ยม some kind beautiful จะต้องขอบคุณมากที่หนังมีเหตุการณ์ของหนังเป็นไฮไลต์ที่ช่วยจุนเจือรวมทั้งสร้างความเร้าอารมณ์ให้กับผู้ชมได้ตลอดทั้งเรื่องดี แม้กระนั้นการเล่าเรื่องกับบทหนังยังคงออกจะไม่มีเสน่ห์แล้วก็ความแหลมคมคาย มีหลายๆมุมที่คงจะกัดซาบซึ้งใจผู้ชมได้มากกว่านี้ แต่ว่าท้ายที่สุดก็ทำออกมาได้เพียงแค่..ฉากปกติ ตอนครึ่งแรกของหนังเต็มไปด้วยข้อมูลรวมทั้งเหตุการณ์การพูดจาที่ยังไม่ค่อยมีอะไรสะดุดตานัก แม้ว่าจะเป็นจุดปูเรื่องที่ค่อนข้างจะสำคัญ แต่ว่าหนังกลับยังไม่สร้างแรงดึงดูดใจก้าวหน้าสักเท่าไหร่ การเล่าเรื่องยังมีผลให้รู้สึกเรียบเฉยเมยอยู่ แต่ว่าแผนภูมิเริ่มมาขึ้นได้ในตอนช่วงหลัง แม้กระนั้นก็เป็นการพีคขึ้นแบบยังไม่สุดอย่างที่ควรเป็น
ทำเป็นดีแต่ยังไม่ถึงระดับที่ตรึงตาตรึงใจและก็ต้องใจที่สุดแน่ๆว่าการแสดงของ ฮวังจองไม่น กับ ฮยอนบิน เป็นราวกับเพชรเม็ดสวยที่ช่วยพยุงหนังอีกทั้งประเด็นนี้เอาไว้ได้อย่างดีเยี่ยม การแสดงอันเป็นธรรมชาติและก็เป็นมือโปรของพวกเขา แปลงเป็นองค์ประกอบที่เยี่ยมที่สุดของหนังประเด็นนี้ พวกเขาไหลลื่นและก็เข้าขากันอย่างดีเยี่ยม ถึงแม้ว่าหน้าที่ในติดอยู่แรกเตอร์ที่พวกเขาได้รับนั้นแทบไม่ใช่บทที่แปลกใหม่อะไรเลยก็ตามฮวังจองไม่น รู้ว่าเขาจะถ่ายทอดบทนี้ออกมาเช่นไร ถึงบทนี้เกือบจะเป็นหน้าที่ที่เขาเคยรับมาบ้างแล้วในหนังเรื่องอื่นๆแต่ว่าจังหวะการแสดงของเขาก็ยังคงเป็นฮวังจองไม่นที่เต็มไปด้วยธรรมชาติแล้วก็การแสดงที่ทรงประสิทธิภาพ พากเพียรช่วยเร่งเร้าอารมณ์ผู้ชมได้เรื่อยโดยยิ่งไปกว่านั้นจังหวะการแสดงดราม่าของเขา ตอนที่ ฮยอนบิน กับหน้าที่ที่เกือบจะไม่มีอะไร แม้กระนั้นความโก้เก๋ระดับตัวบิดาของเขา เป็นเยี่ยมในส่วนเสริมที่ทำให้พวกเราแทบจะละสายตามิได้ แล้วก็ทำให้พวกเราต้องการจะมองเห็นเขาไปได้ไกลระดับฮอลลิวูด
somekind of beautiful Sharper ชาร์ปเปอร์” อุบายจัด..จำพวกว่าเสี่ยงสปอยล์มากมาย
พวกเราบางทีอาจจะเคยดูหนังอาชญากรรมต้มตุ๋นมาหลายเรื่อง ที่ชอบพรีเซนเทชั่นกลเม็ดและก็เคล็ดวิธีที่แยบคายเปรียบเสมือนจริงแบบจำต้องอ้าปากหวอ และก็มาถึงเรื่องปัจจุบันที่ต้องการจะเสนอก็คือ “Sharper ชาร์ปเปอร์” หนังที่ต้องการจะชูให้เป็นหนังเจ้าเล่ห์ที่สุดเรื่องหนึ่งที่เคยมองมา กับทีท่าท่าทางที่ใจเย็น แต่ทำให้ผู้ชมเชื่อใจอะไรมิได้เลยกับทุกๆไดอะล็อกของหนังประเด็นนี้ Sharper อ่านว่า ชาร์ปเปอร์ คือ คนที่ดำเนินชีวิตด้วยอาศัยความเฉลียวฉลาด เกี่ยวกับเรื่องราวของหนุ่มคนที่แสวงหาการแก้เผ็ดครอบครัวของเขา ที่เขาไม่เคยสารภาพมาก่อน พร้อมทั้งคิดแผนแล้วก็ใช้เล่ห์กลสำหรับการเอาเปรียบพวกคนมั่งคั่งไม่เลือกหน้า เพื่อได้มาซึ่งความมั่นคั่งในเงินทองที่เป็นอย่างเดียวที่เขาต้องการในชีวิตนี้
เอาจริงเอาจังๆเพียงแค่มองเห็นรายนามดาราหนังของหนังประเด็นนี้ก็ร้องว้าวแล้วนะ นำกลุ่มโดย “จูลีแอนน์ มัวร์”, “เซบาสเตียน สแตน”, “จัสติน สมิธ”, “บรีอาน่า มิดเดิลตัน” รวมทั้ง “จอห์น ลิธโกว์” ที่แน่ๆว่าลีลาท่าทางการแสดงของพวกเขาจัดจ้าและก็เชื่อมั่นได้เลยตลอดทั้งเรื่อง ด้วยความเป็นมือโปรและก็แคสติ้งระดับเย่อหยิ่งแบบนี้ เท่านี้ก็นับได้ว่าเป็นผลกำไรของคนดูแล้วนี่เป็นงานควบคุมของ
“เบนจามิน แครอน” จากซีรีส์ดัง The Crown แล้วก็ Andor ที่จัดว่าเขาถือเอาเอกลักษณ์ในงานสร้างของตนเองมาใช้ได้อย่างคุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างบรรยากาศ โทนภาพ โทนสี หนังประเด็นนี้สัมผัสได้ถึงผลงานก่อนๆของเขาได้อย่างดีเยี่ยม ถึงแม้ทางด้านเทคนิคต่างๆบางครั้งก็อาจจะมิได้มีอะไรหวือหวาเท่าไรนัก แต่ว่าวิถีทางไดเรคชั่นของหนังก็ค่อนข้างจะคมดีในระดับที่น่าพึงพอใจ
Sharper ได้ 2 คนเขียนบท “ไบรอัน เกตวู้ด” กับ “อเล็กซานโดร ทานากะ” จากซีรีส์ Animal Practice กับ Dice เอาตรงๆบทหนังหัวข้อนี้บางครั้งอาจจะมองมีมิติและก็ความสลับซับซ้อนอยู่ไม่น้อย แม้กระนั้นถ้าเกิดได้สัมผัสที่จริงแล้วก็จะพบว่ามิได้สลับซับซ้อนอะไรขนาดนั้น แค่เพียงอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีบางมุมที่เล่นกับความรู้สึกที่คาดการณ์มิได้กับผู้ชมเป็นหลัก แม้กระนั้นนับว่าเป็นลูกเล่นที่ใช้ไม่น้อย
Unlocked” ความน่าขนลุกจากอันตราย มันอยู่ใกล้เพียงแค่..ปลายเล็บ
มาดื่มด่ำกับคดีตื่นเต้นตามหาว่าผู้ใดกันเป็นคนทำ somekind of beautiful กับหนังเขย่าขวัญที่รีเมคมาจากนิยายและก็หนังประเทศญี่ปุ่นเรื่องดัง นี่เป็น “Unlocked เพียงแค่ทำโทรศัพท์เคลื่อนที่หาย เพราะอะไรจำเป็นต้องแปลงเป็นศพ” ที่ปรับโหมดมาเป็นหนังประเทศเกาหลีสุดระทึก กับกลุ่มดาราหนังจัดจ้าทางการแสดง ที่จะมาทำให้ผู้ชมแทบจะลืมหายใจ
สำหรับในการตามหาร่องรอยรวมทั้งคลี่คลายเงื่อนปัญหาคราวนี้ Unlocked เพียงแค่ทำโทรศัพท์เคลื่อนที่หาย เพราะเหตุใดจำต้องแปลงเป็นศพ เกิดเรื่องราวของ นามิ สาวนักการตลาดที่บริษัทสตาร์ทอัปแห่งหนึ่ง ปรากฏว่าวันหนึ่งคุณทำโทรศัพท์เคลื่อนที่หาย แต่ว่าโชคดีที่ได้กลับคืนมา ซึ่งตั้งแต่แมื่อนั้นเป็นต้นมา ความสงบสุขในชีวิตของคุณก็ได้หายไปเพราะเหตุว่าถูกรุกราม
เวลาที่ จุนยอง คนที่บังเอิญเก็บโทรศัพท์ของนามิมาได้ ก่อนที่จะนำส่งกลับ เขาได้ใช้โทรเข้าหาคุณรวมทั้งใช้เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการก่อเหตุอาชญากรรม โดยที่คุณมิได้ล่วงรู้ใดๆก็ตามส่วนอีกฟากของเมือง จีมัน ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์สายลับกำลังแสวงหาเบาะที่เกี่ยวกับเหตุการฆาตกรรมในซอกเขา รวมทั้งเขาได้เจอประเด็นบางสิ่งบางอย่างที่ชี้ว่า จุนยอง
ลูกชายที่ล่องหนไปของเขาเป็นคนก่อเหตุหนังปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงมานิคุณยายของ อากิระ ชิงะ ที่ถูกนำมาผลิตเป็นหนังประเทศญี่ปุ่น “Stolen Identity” อีกทั้ง 2 ภาค ในปี 2018 กับ 2020 ก่อนหน้านี้ โดยได้ผู้กำกับหน้าให่ “คิมแทจุน” มารับหน้าที่ดูแลและก็เขียนบทหนัง ที่จำเป็นต้องพูดว่าส่วนประกอบทุกสิ่งทุกอย่างออกมาเจริญตามมาตรฐาน แค่เพียงน่าผิดหวังสักนิดหน่อย เพราะหนังใส่ความแปลกใหม่ไม่ค่อยจะพบเท่าใดนัก
บางทีก็อาจจะเป็นเพราะเหตุว่าหนังแบบ Unlocked หัวข้อนี้นั้นเป็นหนังจำพวกหนังประเทศเกาหลีเคยสร้างออกมาแล้วเสมอๆมองเห็นได้แทบทุกปี มันก็เลยมิได้รู้สึกแปลกใหม่อะไรอีกต่อไปแล้ว หากว่าหนังจะจับเอาข้อความสำคัญอาชญากรรมไซเบอร์ขึ้นมาเกิดเรื่องราวหลักสำหรับเพื่อการเล่านั้น แม้กระนั้นทุกๆสิ่งทุกๆอย่างเป็นไปด้วยพล็อตสูตรสำเร็จที่ไม่มีอะไรนอกจากไปจากที่เดาได้อยู่แล้ว
Close รักแรกพบ วันนั้น รวมทั้งนี่เป็นหนังจากประเทศเบลเยี่ยมที่ติดโผเป็น 1 ใน 5 เรื่องที่ได้เข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ต่างชาติเยี่ยมยอด บนเวทีออสการ์ 2023 ที่กำลังจะประกาศผลในเร็ววันนี้ นี่เป็น “Close รักแรกพบ วันนั้น” หนังดราม่า coming-of-age ภาษาชาวฮอลันดาและก็ประเทศฝรั่งเศส ที่เคยสร้างเสียงฮือฮามาได้ตั้งแต่เปิดตัวฉายที่เทศกาลหนังเมืองคานส์ 2022 แล้วก็เอารางวัล Grand Prix มาครอบครองได้อย่างสมเกียรติ หนังที่เต็มไปด้วยความแหลมคมคาย ทั้งยังรายละเอียดและก็งานสร้างที่เบาๆปฏิบัติงานไปกับอารมณ์ความรู้สึกของผู้ชมได้อย่างคมคายในทุกๆนาที
Close รักแรกพบ วันนั้น เกิดเรื่องราวความเป็นมิตรอันลึกซึ้งระหว่างเด็กผู้ชายวัย 13 ปี ทั้งคู่คน somekind of beautiful เลโอ และก็ เรมี ที่พวกเขาต่างสนิทเป็นเพื่อนสนิทบ้านเรือนใกล้กันกันมาตั้งแต่เล็กๆแต่ว่าเวลานี้การเปลี่ยนแปลงได้เข้ามากีดกั้นมิตรภาพของพวกเขาด้วยเหตุผลบางสิ่งบางอย่าง แล้วก็ความไม่รู้เรื่องว่ากำเนิดอะไรขึ้น เลโอก็เลยลังเลที่จะกลับไปพบโซฟี ผู้เป็นแม่ของเรมี
แบบที่รู้จักดีได้อีกที หนังสำเร็จงานปัจจุบันของผู้กำกับชายหนุ่มไฟแรง “ลูคัส ดอนต์” ที่มักมีเอกลักษณ์สำหรับเพื่อการจับจับสร้างแนว coming-of-age โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลงานชิ้นก่อนที่จะเป็นหนังใหญ่เรื่องแรกของเขา อย่าง Girl ก็้้ดีเยี่ยมที่สุดระดับล่ารางวัลเช่นกัน มาคราวนี้เขายังคงรับหน้าที่ดูแลงานสร้างรวมทั้งร่วมเขียนบทอีกอย่างเคย ร่วมกับมือเขียนบทคู่บารมี “แองเจโล เทสเกนส์”
บางทีอาจจะจะต้องกล่าวว่า Close รักแรกพบ วันนั้น เป็นหนังที่เต็มไปด้วยข้อความสำคัญความเจริญที่ความเกี่ยวข้องแล้วก็มิตรภาพของเด็กผู้ชาย ที่อาจจะก่อให้พวกเราสัมผัสถึงกลิ่นความเป็น LGBTQ+ ได้อยู่เนืองๆแต่ว่าตัวหนังติดต่อสื่อสารออกมาได้อย่างกิมไม่กและก็เสน่ห์ที่ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเน้นถึงเรื่องนั้นอย่างเอาจริงเอาจัง แต่ว่าเบาๆกดดันอารมณ์ใส่เข้ามาในบทหนังทีละน้อยๆ ด้วยเหตุแล้วก็ผล และก็ความประพฤติปฏิบัติของนักแสดงที่แสนแยบคายและก็บาดลึกไปในทุกๆนาทีของหนัง
ทั้งยังไม่ต้องตั้งแง่ไปก่อนว่า Close รักแรกพบ วันนั้น สล็อตออนไลน์ ใหม่ๆ วอเลท ที่เป็นจากยุโรปหัวข้อนี้จึงควรตีลังกาดูหรือไม่ เนื่องจากหนังค่อนข้างจะเล่าง่าย หากแม้หัวข้อจะยิ่งนักรุนแรงไม่น้อย แต่ว่ากับร้อยเรียงออกมาได้เสมือนมีดที่เบาๆกรีดและก็บาดลึกเข้าไปในหัวใจผู้ชมทีละเล็กทีละน้อย จนถึงแปลงเป็นรอยแผลเหวอะในช่วงปลายทางของหนัง พิจารณาออกมาเป็นภาพที่เรื่องเศร้าที่เต็มไปด้วยความเจ็บแล้วก็สวยสดงดงามไปพร้อมเพียงกัน แล้วก็บางทีก็อาจจะถึงขนาดทำผู้ชมเกือบจะกระอักความระบมออกมาติดอยู่โรงภาพยนต์ได้อย่างยิ่งจริงๆแน่ๆว่าคุณลักษณะเด่นของหนังหัวข้อนี้เป็นการแสดง จำเป็นต้องตบมือให้ดังๆกับแคสติ้งผู้แสดงของหัวข้อนี้ เป็นเยี่ยมในการบรรลุเป้าหมายที่ค้นหาเพชรได้พบอีกที “เอเดน ดัมบริน”
ดาราเด็กที่มาเดบิวต์เล่นหนังหัวข้อนี้เป็นประสบการณ์หนแรก ทำออกมาได้ออกจะบรรเจิดอย่างเชื้อเชิญงงงวย เขาสามารถแบกรับหนังทั้งยังเรื่องเอาไว้ด้วยตัวเองอย่างสบายๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งการติดต่อสื่อสารผ่านอารมณ์แล้วก็อิริยาบถในซีนต่างๆทำออกมาได้น่าคลั่งไคล้ยิ่งนัก ทั้งยังกล้องถ่ายภาพยังรักเขาอย่างดีเยี่ยม เอเดน ดัมบริน แปลงเป็นส่วนประกอบที่เด่นและก็เฉิดฉันมากมายๆในหนังหัวข้อนี้ แม้ว่าจะเป็นมือใหม่ แต่มอบการแสดงที่น้อยแม้กระนั้นมากมายได้อย่างน่าพอใจ เหมือนกันกับคนใหม่อีกคน “กัสตาฟ เดอ เวลล์” ที่รูปทรงของบทบางครั้งก็อาจจะด้อยกว่า แม้กระนั้นการได้เขามาร่วมแสดงเดินคู่กับคนภายในรุ่นๆเดียวกัน มาช่วยเติมเต็มเสน่ห์และก็พลังความคลั่งไคล้กับหนังหัวข้อนี้ได้อย่างสมบูรณ์เพิ่มขึ้น เด็กผู้ชายอีกทั้ง 2 คนนี้ต่างช่วยเหลือกันพยุงหนังออกมาได้แทบเพอร์เฟ็คทีเดียว