ปะฉะดะ คนเหนือยุทธ สามเพื่อนมากมายความสามารถ ถนัดมวยคนละแนว ไทเกอร์ หว่อง (นิโคลัส เซียะ) ถนัดมวยหมัด ผุดไฟ, ดราก้อน วู (ดอนนี่ เยน) ถนัดมวยเตะ โผบินหาว รวมทั้ง เทอร์โบ (ชอว์น หยู) ใช้ พลองเทอร์โบ ได้อย่างกระฉับกระเฉง พวกเขามีเรื่องมีราวมีความขัดแย้งกับสำนักลั่วชา ซึ่งมี ชิบูไม่ (หฝ่าส์ กู่) จอมโหดร้ายทารุณซึ่ง ส่งคนไปฆ่าคนทั้งยังครอบครัวของหม่าสิงหลินบุตรสาวของหม่าลุกน ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่ราษฎรเชื่อถือ ทั้งยังสามก็เลยตกลงกันที่จะร่วม มือชำระแค้น แต่ถ้าว่าความสามารถของอีกทั้งสามยังไม่บางทีอาจคิดกระทำการใหญ่ บุกไปคว่ำคนของสำนักลั่วชาได้ ก็เลยตกลงใจเดินทางไปฝึกหัดเทคนิคยอดเยี่ยมวิชายุทธที่สำนักมวยเพิ่ม ก่อนที่จะนัดหมายวันกระหน่ำสำนักลั่วชาให้ราบ
หนังสร้างขึ้นจากการ์ตูน (ที่ผมไม่เคยได้อ่าน) เรื่องของสองลูกพี่ลูกน้องหวังเกลอหลง (Yen) แล้วก็หวังเกลอหู่ (เซียะถิงฟง) ที่มีอันจำต้องจากกันตั้งแต่ยังเด็ก ครั้นเมื่อเพียงพอโตขึ้นพวกเขาก็มาเจอกัน (แบบจำกันมิได้ในตอนแรก) และก็มีอันจะต้องปะทะกันตามสูตรนะครับ ซึ่งความสามารถของทั้งสองก็ถือว่าไม่ธรรมดา แล้วพวกเขายังได้พบกับ สือเฮยหลง (Shawn Yue) ยอดความสามารถตะบองสองท่อน ก่อนที่จะพวกเขาจะมาร่วมมือกันจัดการกับจอมมารร้ายในคราวหลัง ผมถูกใจตอนต้นๆขอรับ คิวบู๊ทำออกมาได้มันดี ไม่ว่าจะฉากที่เพื่อนหู่บู๊ในร้านอาหารก่อนที่จะพบกับเกลอหลง แล้วอีกตอนก็ตอนไปบู๊กันในห้องอาหารประเทศญี่ปุ่น ขั้นแรกๆนี่หนังเสิร์ฟฉากบู๊ได้สนุกแบบพอดีดี มีกิมมิคระหว่างบู๊ที่ค่อนข้างจะน่าจำด้วย
ปะฉะดะ คนเหนือยุทธ หนังเต็มเรื่อง HD
ครั้นเมื่อพอเพียงเรื่องมาถึงตรงกลางๆอันเป็นตอนเล่านักแสดงและก็ถ่ายทอดเรื่องราวเชิงดราม่า ตอนที่ว่านี้ออกแนวเรื่อยครับผม ความน่าดึงดูดใจไม่จัดว่ามาก พูดขวานผ่าซากเลยเป็นเงื่อนต่างๆในเชิงดราม่ายังไม่เย้ายวนใจเท่าท่ี่ควรจะ ส่วนที่ทำให้หนังน่าดึงดูดจริงๆนั้นจำเป็นต้องชูให้ฉากบู๊นี่แหละนะครับ ซึ่งก็จะมีมากตอนต้นๆกับส่วนท้ายในตอนไคลแม็กซ์ที่ 3 ผู้แสดงหลักจำต้องไปปะฉะดะกับจอมมารแม้กระนั้นให้ว่ากันตรงๆแล้ว ตอนไคลแม็กซ์ที่สู้กับจอมมารนั้น หากแม้มันจะตระการตาแล้วก็ฉากมองยิ่งใหญ่ แต่ว่าในทางความพลิ้วไหวสลัดลายแล้วยังนับว่าน้อยกว่าตอนต้นๆส่วนใดส่วนหนึ่งคงจะเนื่องจากฉากบู๊ช่วงท้ายนี่มันออกแนวแฟนตาซีน่ะขอรับ นักแสดงมาอัดพลังใส่กันมากยิ่งกว่าจะอัดหมัดประเคนเท้าแบบตอนแรกๆ
ถึงแม้สงครามโลกครั้งที่ 2 จะผ่านมาเกือบจะ 80 ปีแล้ว แต่ว่าอุตสาหกรรมภาพยนตร์ทั่วทั้งโลกก็ยังคงสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2 ออกมาเรื่อยรวมทั้งส่วนมากแล้ว ‘ที่นาซีเยอรมัน’ ก็ชอบได้บทตัวร้ายในหนังอยู่เป็นประจำ ถึงแม้ว่าจะประเด็นนี้ Blood & Gold หนังที่สร้างโดยเยอรมันเองก็ตาม รวมทั้งเป็นการเลือกจับประเด็นเล็กๆในช่วงปลายการรบมาเล่าได้อย่างน่าดึงดูดหนังได้ผลงานดูแลของ ปีเตอร์ ธอร์วาร์ต (Peter Thorwarth) สมัยก่อนดาราที่ผันมาเป็นผู้กำกับ แล้วหัวข้อนี้ยังพ่วงหน้าที่ร่วมเขียนบทกับ สเตฟาน บาร์ธ (Stefan Barth) และก็ได้ผลงานควบคุมเรื่องที่ 2 แล้ว ที่ธอร์วาร์ตกำกับให้กับ Netflix เรื่องก่อนหน้าซึ่งก็คือ Blood Red Sky หนังแวมไพร์บนเครื่องการค้า ก็เป็นอีกหัวข้อที่เล่าอสุรกายแวมไพร์ในพื้นที่จำกัดได้อย่างสนุกสนานน่าติดตาม
Blood & Gold เล่าราวของ ‘ไฮน์ริช’ สมัยก่อนทหารท้องนาซีหนีกองทัพ ปะฉะดะ คนเหนือยุทธ ที่มีชีวิตรอดจาการถูกแขวนคอมาได้ เนื่องจากว่า ‘เอลซา’ สาวเกษตรกรช่วยเหลือเขาไว้ แล้วที่นาซีหน่วยเดียวกันนี้ก็ลักพาตัว ‘พอล’ น้องชายของเอลซาไป ทำให้ไฮน์ริชและก็เอลซาต้องตามมาที่หมู่บ้านที่กองทหารที่นาซีมาตั้งกองทัพ เนื่องจากหมู่บ้านนี้มีทองคำแท่งเยอะๆที่ครอบครัวชาวยิวทิ้งไว้ เปลี่ยนเป็นความรุงรัง ที่ประชาชนรวมทั้งทหารที่นาซีพากเพียรจะแย่งทองคำกัน เวลาเดียวกันไฮน์ริชและก็เอลซาก็พากเพียรล้างแค้นเอาคืนกับเหล่าทหารท้องนาซีจอมโฉด
ขั้นแรกก็จำต้องชื่นชอบที่ธอร์วาร์ตรวมทั้งบาร์ธ 2 มือเขียนบทที่เลือกเล่าราวสงครามโลกครั้งที่ 2 ในมุมมองที่ไม่เหมือนกับทุกเรื่องก่อนหน้านี้ทำให้ไม่ซ้ำๆซากๆ ด้วยเหตุว่าใช่เพียงแค่สงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นเบื้องหลัง ไม่มีฉากทำศึกกันระหว่างทหาร แม้กระนั้นเลือกให้อดีตกาลทหารท้องนาซีหนีกองทัพเป็นดารานำชายแล้วหน่วยทหารเดิมเล่นบทมิจฉาชีพไป แล้วสร้างภาพลักษณ์ตัวร้ายของเรื่องได้ต่ำช้าสุดๆไปเลย หมดทั้งตัวผู้พันของหน่วยที่ชั่วร้ายสุด แถมสร้างภาพลักษณ์ได้ราวกับเหมือนกับตัวร้ายในการ์ตูน
เป็นหน้าเหลวไปข้างหนึ่งแล้วใส่หน้ากากปกปิดรอยแผลไว้ครึ่งหน้า dragon tiger gate พากย์ไทย อำมหิตและก็ไม่มีรอยยิ้ม รองลงมาเป็น ‘นายสิบจอมโฉด’ ร่างใหญ่โหดเหี้ยมและก็หื่นตลอดระยะเวลา มีความแค้นฝังหุ่นกับไฮน์ริชตัวร้ายของเรื่อง หัวข้อนี้ผู้แสดงนำชายของพวกเราก็เลยจำต้องพบเจอกับตัวร้ายระดับบอสถึง 2 ตัว เพียงพอหนังประดิษฐ์ตัวร้ายได้โหดเหี้ยมดุแบบงี้ก็ยิ่งทำให้หนังมองมีชีวิตชีวาน่าติดตาม ความยาวหนังตามมาตรฐานเพียงแค่ 90 นาที แม้กระนั้นก็ยังแบ่งคปรี่งแรกแล้วก็ช่วงหลังได้อย่างเห็นได้ชัด ครึ่งแรกนั้นเรื่องราวจะอยู่ที่บ้านนาของเอลซา ที่ไฮน์ริชและก็เอลซาจำเป็นที่จะต้องต่อกรกับหน่วยทหารทุ่งนาซี ก่อนที่จะพวกมันจะจับกุมตัวพอลไปยังหมู่บ้าน เพียงพอเข้าช่วงหลัง
เรื่องราวก็จะดำเนินอยู่เพียงใดหมู่บ้านเล็กมีราษฎรไม่กี่หลังคาเรือน มีโบสถ์เป็นศูนย์กลางของหมู่บ้าน แล้วก็เป็นเป้าหมายหลักของทหารที่นาซีหน่วยนี้ที่รู้ข่าวว่าครอบครัวชาวยิวทิ้งทองคำแท่งไว้จำนวนไม่น้อย และก็พวกมันก็อยากได้ครองทองคำพวกนี้ เพื่อไปดำเนินชีวิตสบายเนื่องจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ใกล้จะเลิกลงแล้ว ทำให้ 2 เส้นเรื่องมาบรรสิ้นสุดกันในหมู่บ้านนี้ แล้วพาพวกเราไปสู่ฉากจุดไคลแมกซ์ที่สาดกระสุนกันดุเด็ดเผ็ดมัน ทั้งยังราษฎรที่ฆ่าคุ้นเคยเพื่อชิงทองคำ แล้วยังจำต้องต่อกรกับทหารที่นาซีที่ปรารถนาทองคำด้วยเหมือนกัน ส่วนไฮน์ริชรวมทั้งเอลซานั้นก็อยากได้ทวงแค้นกับผู้พันรวมทั้งนายสิบชั่วร้าย
A Beautiful Life ชีวิตที่งดงาม
ถือเอาหนังจากเดนมาร์กเรื่องปัจจุบันที่พึ่งฉายทางสตรีมมิ่งเจ้าดังมาเอ่ยถึงกันสักนิดสักหน่อย นี่เป็นหนังที่คลุกเคลาไปด้วยเสียงดนตรีอันเพราะ พร้อมด้วยเรื่องราวการเจริญเติบโตของคนมีฝันที่กล้าลุกขึ้นยืนมาประพฤติตามความฝันใน “A Beautiful Life ชีวิตที่สวย” นี่เป็นหนังภาษาเดนิชตลอดทั้งเรื่อง แม้กระนั้นร้องเพลงเพลงเป็นภาษาอังกฤษ ที่ผ่านการประพันธ์ใหม่ ที่อบอวลไปด้วยความหมายอันน่าประทับใจในทุกๆเพลง
A Beautiful Life ชีวิตที่งาม เกี่ยวกับชีวิตชายหนุ่มคนหาปลา เอลเลียต ปะฉะดะ คนเหนือยุทธ คนที่ความสามารถพิเศษซ่อนอยู่ในเสียงขับขานที่ไม่ธรรมดาของเขา เขาได้รับจังหวะครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวืต เมื่อ ซูซานน์ โปรดิวเซอร์เพลงมีชื่อเสียงได้บังเอิญไปได้ยินน้ำเสียงของเขาเข้าให้ คุณก็เลยจับคู่เขากับ ลิลี่ บุตรสาวที่เป็นนักทำเพลงแบบใหม่ ที่กำลังจะมีความเกี่ยวข้องที่ไม่ค่อยลงรอยกันระหว่างแม่ลูก โน่นเป็นจุดเริ่มต้นวิถีทางการเป็นคนมีชื่อเสียงของเอเลียด แม้กระนั้นความเจริญก้าวหน้าในชีวิตของเขายังจะต้องมีบทพิสูจน์อีกเยอะมากกลางทาง
หากจะว่ากันอย่างไม่อ้อมค้อม A Beautiful Life ก็แทบลอกคราบสูตรสำเร็จลักษณะเดียวกันกับที่หนังดังๆอย่าง Star is Born มาแต่งใหม่อะไรทำนองนั้นเลย เพราะว่าพล็อตและก็พล็อตเรื่องของหนังประเด็นนี้แทบไม่มีอะไร ไม่มีอะไรกระทั่งแทบจำอะไรเกี่ยวกับตัวหนังมิได้เลย เว้นเสียแต่เพลงแต่งใหม่ที่ขับขานได้อย่างทรงอำนาจและก็ชื่นชอบในหลายๆซีน ซึ่งน่าจะเป็นเพียงแต่ส่วนประกอบเดียวที่หนังเรื่องนี่้สอบได้จริงๆ
A Beautiful Life ก็ดังหนังที่สร้างออกมาเพียงแค่ส่งเสริมแล้วก็สร้าโปรไฟล์ให้กับนักแสดง ซึ่งในประเด็นนี้ก็มาเพื่อสร้างบทให้กับนักร้องชายหนุ่มโด่งดังจากเดนมาร์ก อย่าง “คริสโตเฟอร์” ที่แน่ๆว่าเขายอดเยี่ยมในกลุ่มโปรดิวเซอร์หนังหัวข้อนี้ พร้อมด้วยยังทำเพลงใหม่ประกอบหนังประเด็นนี้ให้โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นอัลบั้มอีกด้วย ซึ่งก็อย่างที่พวกเราคงจะทราบผลดีอยู่ว่า การเอานักร้องมาแบกรับหนังสักเรื่องหนึ่งค่อนข้างจะท้าไม่น้อย
แม้ว่าจะเขามีประสบการณ์เล่นหนังรวมทั้งซีรีส์มานิดหน่อย แต่ว่าคริสโตเฟอร์ก็ยังไม่อาจจะเกื้อหนุนหนังทั้งยังเรื่องได้ เว้นเสียแต่เสน่ห์ของเขาที่เปล่งรัศมีอีกทั้งเรื่องไม่หยุดจริงๆเขายังเลือกเพียงแค่ไปบ่มนิสัยรวมทั้งดึงเอาวิชาแอคติ้งออกมาให้ได้มากกว่านี้ การแสดงของเขาในหัวข้อนี้ก็มิได้ห่วยอะไรหรอก เพียงแต่ว่ามันคงจะได้มากขึ้นกว่านี้อีกสักนิด เพราะว่ารวมๆแล้วเขาทำออกมาได้ไม่มีอะไรให้น่าจำเลยสักฉากเดียว
ในตอนที่ดาราสมทบคนอื่นอย่าง “อิงกา อิบส์ด็อตเตอร์ ลิลลอช” กับ “คริสตำหนิน อัลเบค บอร์เก” ราวกับจะถูกใส่เข้ามาให้มาช่วยแบกรับแล้วก็เติมเต็มให้กับหนังประเด็นนี้ แต่ว่าบทที่ปูความเชื่อมโยงระหว่างพวกเขาทั้งสองแม่ลูกค่อนจะไปในทางงงมากๆไปหน่อย ไม่ค่อยมีเหตุผลและก็แยบคายสักเท่าไหร่ พากเพียรจะมีผลให้เป็นพล็อตเสริมของเรื่อง แต่ไม่มีอะไรที่ผู้ชมจำรวมทั้งผูกพันกับพวกคุณได้เลย
About My Father ตัวบิดาจะสนใจเพื่อ
จะว่าไปภาพยนตร์ตลกแนวครอบครัวสุขสันต์หรือโกลาหล ปะฉะดะ คนเหนือยุทธ ก็ยังคงเป็นชนิดหนังที่ผู้สร้างสร้างกันออกมาอย่างสม่ำเสมอ กลับยากขึ้นเรื่อยที่จะทำให้ผู้ชมชื่นชอบ นานมากแค่ไหนแล้วที่พวกเรามิได้ดูหนังแนวนี้ที่ครบทั้งยังรูปรสในส่วนประกอบ รวมทั้งการมาของ “About My Father ตัวบิดาจะห่วงใยเพื่อ” ก็นับว่าเป็นหนึ่งในความคาดหวังที่จะมาช่วยเติมเต็มสิ่งที่คิดถึงไปได้ เนื่องจากว่าเพียงแค่ได้ยินชื่อดารานำ พวกเราก็แอบเชื่อใจได้บ้างแล้ว
About My Father เกิดเรื่องราวของ เซบาสเตียน บอกบิดาผู้เป็นผู้หนีภัยชาวอิตาเลียนหัวเก่าของเขาว่า เขากำลังจะหมั้นหมายกับแฟนสาวคนประเทศอเมริกา บิดาของเขาก็ดื้อด้านที่จะท่องเที่ยวตอนวันสุดสัปดาห์กับครอบครัวของข้างหญิงให้ได้ เมื่อสองวัฒนธรรมและก็ครอบครัวที่ไม่มีอะไรเช่นเดียวกันเลยมาปะทะกัน เมื่อหมดวันสุดสัปดาห์ในคราวนี้แล้ว พวกเขาจะเปลี่ยนเป็นหนึ่งครอบครัวใหญ่
น่าจะพูดได้ว่า…พวกเราบางครั้งก็อาจจะมุ่งมาดกับมันเกินความจำเป็นนิดหน่อย betflix09 เพราะว่าเอาเข้าที่จริงแล้ว About My Father เป็นภาพยนตร์ตลกครอบครัวที่ยังค้นหาข้อดีของตนไม่พบสักเท่าไหร่ ถึงจะมั่นใจว่าหนังประเด็นนี้มีอยู่ แต่มิได้เปล่งรัศมีแสงสว่างออกมาได้อย่างแจ่มแจ้ง ทำให้เปลี่ยนเป็นเพียงแต่ภาพยนตร์ตลกซ่อนเร้นข้อความสำคัญครอบครัว แบบบ่อยๆเชยๆสูตรสำเร็จที่ไม่ค่อยมีอะไรที่แปลกใหม่เท่าใดหนังอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีกลิ่นความอลหม่านแบบเชื้อสายหนัง Meet the Parents ที่เป็นตำนานหนังในสมัยปี 2000s กลับสัมผัสไปไม่ถึงส่วนประกอบนั้นได้เลย มิได้แม้กระทั้งเฉียดฉิวใกล้แม้แต่น้อย ทำเป็นแค่เพียงหนังที่ผู้ชมนั่งไปดูไปแล้วหัวเราะ “หึหึ” ออกมาตามน้ำแล้วก็ตามเนื้อเรื่องแค่นั้น สาระสำคัญต่างๆในหนังประเด็นนี้เกือบจะจับมิได้เป็นชิ้นเป็นอันเลยนิดหน่อยเดียว
ปัญหาก้อนใหญ่ของหนังประเด็นนี้คงเป็นบทหนังที่ค่อนข้างจะบางเบาไปสักนิดสักหน่อย ในขณะที่บากบั่นจะสัมผัสจับใจความสำคัญที่ทรงประสิทธิภาพเข้ามาประสมประสานกัน แต่แปลงเป็นการผสมองค์ประกอบที่ค่อนข้างจะล้มเหลวไปสักนิด มีอีกทั้งเรื่องชีวิตของผู้หนีภัย หรือความสิ้นเปลืองเครือญาติสปอยล์บุตรหลาน แม้กระนั้นในที่สุดมันก็แตะเพียงแค่แบบผิวเผิน มิได้ให้รายละเอียดแล้วก็เน้นย้ำจุดสำคัญอะไร